บ้านนั้นสำคัญไฉน...
A HOUSE IS NOT A HOME ! บ้านพักหาใช่บ้านเรือน ! คำกล่าวของฝรั่งคำนี้ มีความหมายชัดเจนในตัวเอง อธิบายถึงความแตกต่างกันของที่อยู่อาศัย ที่เรียกในภาษาไทยว่า บ้าน HOUSE บ้านพัก ที่อยู่อาศัยลักษณะชั่วคราว บางคนมิได้ให้ความสำคัญมากไปกว่า เป็นแค่ที่ซุกหัวนอนเท่านั้น HOME บ้านเรือน ที่อยู่อาศัยลักษณะถาวร ซึ่งผู้อยู่ มีความรัก ความผูกพัน ห่วงหาอาลัยถึง ยามเมื่ออยู่ห่างไกล เมื่อกล่าวถึง ประเทศบ้านเกิดเมืองนอน เราจะใช้คำว่า Home Country ยังมีคำกล่าวที่คุ้นหูอีกประโยค ที่กล่าวถึงบ้านเรือนว่า HOME SWET HOME บางท่านอาจงงว่า เป็นบ้านน้ำตาลหรือไง จึงได้หวานนัก ความจริงเป็นคำเปรียบเปรยว่า บ้านที่มีความรัก ความอบอุ่น ความกลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสมาชิกในบ้าน จะเป็นบ้านที่มีความสุข สดชื่น และหวานฉ่ำยิ่ง คนที่มาจากครอบครัวที่แตกร้าว พ่อแม่แยกทางกัน จะขาดความอบอุ่น กลายเป็นคนมีปมปัญหา ในส่วนลึกของจิตใจ บางทีกลายเป็นคนขวางโลก ก้าวร้าว ระราน มุทะลุ ไร้น้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น บุคคลที่เป็นเช่นนี้ มักถูกเรียกว่า BROKEN HOME - บ้านแตก คนที่จากบ้านไปไกลๆ แล้วเกิดหงอยเหงาเศร้าใจ เป็นอาการของโรคคิดถึงบ้าน - HOME SICK สถานที่พักแรมของนักทัศนาจรบางแห่ง บางทีอยากทำให้ผู้มาพัก มีความรู้สึกสุขใจเหมือนอยู่บ้านตัวเอง มักจะเขียนคำโฆษณาสรรพคุณไว้ว่า A HOMELIKE ATMOSPHERE มีบรรยากาศเหมือนบ้าน สำหรับผู้ที่เดินทางบ่ายหน้ากลับสู่ประเทศบ้านเกิด เราเรียกการเดินทางนี้ว่า HOMEWARD BOUND เมื่อเดินทางถึงมาตุภูมิแล้ว เรียกว่า HOME COMING เวลาทำอาหาร ถ้าอยากให้รู้ว่าทำมาจากบ้าน มิได้ซื้อมาจากที่อื่น จะเรียก HOMEMADE บ้านเรามักเห็นตามร้านก๋วยเตี๋ยว ปิดป้ายว่า ลูกชิ้นปลาทำเอง หากพาฝรั่งไปทานก็อาจบอกเขาว่า HOMEMADE FISHBALL และก่อนที่เรื่องนี้จะกลายเป็นบทเรียนภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับคำว่า บ้าน ไป ขอนำท่านผู้อ่านกลับมาสู่เรื่องบ้าน แบบไทยๆกันบ้าง พวกเรามีคำกล่าวถึงเรื่องบ้านเรือน ในหลายแง่มุม เช่น คบเด็กสร้างบ้าน คบหัวล้านสร้างเมือง กินบนเรือน ถ่ายบนหลังคา ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ปลูกอู่ตามใจผู้นอน ฯลฯ เพลงไทยเรามีกล่าวถึงเรื่องบ้านหลายเพลง เช่น บ้านคือวิมานของเรา..... กลับบ้านเรา รักรออยู่...... บ้านเรือนเคียงกัน แอบมองทุกวันเลยเชียว..... ฯลฯ เท่าที่ยกตัวอย่างคำกล่าว ทั้งเทศ ไทย หรือเพลง มาให้ดูตั้งหลายอย่าง ก็เพื่อจะให้เข้าแถวมายกมือสนับสนุนว่า บ้าน มีความสำคัญต่อชีวิตคนเราอย่างยิ่ง หากใครกำลังคิดจะมีบ้านใหม่สักหลังหนึ่ง ต้องคิดใคร่ครวญอย่างรอบคอบ เพราะมิใช่ทุกคนหรอกที่จักสามารถแสวงหาบ้านหลังใหม่อยู่ได้เรื่อยๆ คนส่วนใหญ่ มีโอกาสตัดสินใจเพียงหนเดียวในชีวิต หากตัดสินใจถูกก็สบายตลอดไป แต่หากผิดละก็ ต้องชอกช้ำระกำใจ ไปนานเท่านาน ดังเช่นการเลือกคู่ชีวิต ควงคู่กับคู่ใคร่ สามารถหาใหม่ได้เรื่อยๆ เหมือนที่ภาษาวัยรุ่นพูดกันว่า คนเก่าโละทิ้ง ไปปิ๊งกับคนใหม่ดีกว่า ส่วนคู่ครอง หรือคู่ชีวิต แม้จะชอบพอกัน จนมาอยู่กินด้วยกันเฉยๆ โดยไม่ยอมจดทะเบียนสมรสกัน บทเบื่อหน่ายกันขึ้นมา จะทอดทิ้ง หลบลี้หนีหน้าไปง่ายๆ ดังใจปรารถนาหาได้ไม่ บางครั้งต้องมีกระบวนการทางกฎหมาย ที่ยุ่งยากสลับซับซ้อน ติดตามมาให้ปวดเศียรเวียนเกล้า หลายตลบ กว่าจะเลิกร้างแรมรากันไปได้ อาจต้องเจ็บทั้ง กาย วาจา ใจ ทั้งสองฝ่าย หรือสาม สี่ ห้าฝ่าย คือลูกเต้า ญาติฝ่ายสามี ภรรยา มิตรสหาย ต้องพลอยเป็นทุกข์เป็นร้อนไปด้วย บางคู่ใช้วิธีการอันรุนแรง ทำร้ายกันจนถึงแก่ชีวิตไปบ่อยๆ ก็มี ภาษิตโบราณมีกล่าวไว้ว่า มีคู่ผิด คิดจนตัวตาย ปลูกเรือนผิด คิดจนเรือนทลาย ถ้าใครมีความรู้สึกว่า กำลังคิดผิดในเรื่องคู่ชีวิต หรือบ้านเรือน ขอได้โปรดกลับใจเสียใหม่ ปฏิบัติคำกล่าวของฝรั่งที่ว่า If you cant be with the one you love, love the one youre with ! หากคุณไม่อาจอยู่กับของที่คุณรักได้ จงรักของที่คุณมีอยู่แล้ว โดย : เสท เสกล จาก : คู่มือเลือกซื้อ ที่อยู่อาศัย 31 ฉบับพิเศษ DESIGN PUBLICATION
Create Date : 02 มกราคม 2551
Last Update : 2 มกราคม 2551 16:09:20 น.
0 comments
Counter : 841 Pageviews.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [? ]
ยินดีต้อนรับทุกท่านที่แวะเข้ามาชม blog มีข้อคิดเห็น เชิญ comment มาได้นะครับ ถ้าตอบได้ จะตอบให้ทันทีครับ แต่ถ้าไม่ทราบ ต้องขอเวลา จะค้นคว้ามาให้อ่านกัน ท่านที่จะถามคำถาม หรือติดต่อเรื่องบทความ ได้ทาง Email :- d_sign_place@yahoo.com ครับ เรื่องต่างๆที่ผมได้เขียนหรือรวบรวม เรียบเรียงมานี้ ยินดีให้ทุกท่านได้อ่านเป็นวิทยาทานและเพื่อการศึกษา ถ้าจะนำไปโพสต่อใน website สาธารณะ หรือ website อื่นใดที่ไม่ใช่ทางพาณิชย์ กรุณาระบุที่มา คือ https://www.travelaround.bloggang.com และนามปากกาผู้เขียนคือ TraveLArounD ด้วย แต่ขอสงวนสิทธิ์สำหรับการนำไปใช้ ในเชิงพาณิชย์ หรือโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง จะถูกดำเนินคดี ตามกฏหมายลิขสิทธิ์ ส่วนบทความหรือภาพถ่ายใดๆ ที่ได้นำมาจาก website อื่น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบเรื่องนั้นๆ เป็นการถ่ายทอดจากวิจารณญาณแล้วว่า มีความถูกต้องเป็นจริง มากที่สุด และได้นำมาจาก website ที่เป็นสาธารณะ ถ้าเรื่องราวหรือภาพของท่านที่ได้นำมาถ่ายทอดนี้ ไปละเมิดลิขสิทธิ์ของท่าน กรุณาแจ้งมาทาง email : nana_sara1000@ymail.com ผมจะทำการลบข้อมูลหรือภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว ออกทันที Acknowledges that I try to write or report accurately but postings may contain fact , speculation or rumor. I find images from the Web that are believed to belong in the public domain. If any stories or images that appear on the site are in violation of copyright law, please email to :- nana_sara1000@ymail.com and I will remove the offending information as soon as possible.